เมื่อกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังครองตลาดในประเทศไทย ผู้ใช้รถหลายคนเริ่มรู้สึกว่าแม้การเติมไฟฟ้าจะถูกกว่าน้ำมันมาก แต่… ค่าไฟบ้านกลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังชาร์จรถ EV ต่อเนื่องทุกวัน
คำถามที่เจ้าของ EV ส่วนใหญ่สงสัยคือ:
จริง ๆ แล้วค่าไฟชาร์จรถ EV ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
แล้วถ้าติดโซล่าเซลล์ จะช่วยลดค่าไฟได้กี่บาทต่อเดือน?
ต้องติดกี่ kW ถึงจะรองรับรถ EV 1 คันได้จริง?
บทความนี้ Sunnergy จะพาคุณคำนวณแบบง่ายที่สุด พร้อมตัวอย่างจริงจากลูกค้าที่ใช้งาน EV ทั่วไทย ทั้ง BYD, Tesla, MG, Ora GoodCat, Volvo EX30, GWM และรถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ
ก่อนจะรู้ค่าไฟ ต้องรู้ว่ารถของคุณ “กินไฟเท่าไหร่” ก่อน ซึ่งแต่ละรุ่นกินไฟไม่เท่ากัน ตัวเลขเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่:
13 – 18 kWh ต่อ 100 km
หรือพูดง่าย ๆ คือ
ขับ 100 กม. ใช้ไฟประมาณ 2–4 หน่วย
BYD Dolphin: 12–14 kWh
BYD Atto 3: 14–16 kWh
MG4: 15–18 kWh
Tesla Model 3/Y: 14–17 kWh
Ora GoodCat: 16–18 kWh
Volvo EX30: 17–19 kWh
รถแบตใหญ่–มอเตอร์แรง → กินไฟมากกว่า
รถเล็ก–เบา → กินไฟน้อยกว่า
ข้อมูลตรงนี้ใช้ต่อในบทต่อไปเลย
คำนวณได้ภายใน 10 วินาที:
(ระยะทางที่ขับต่อเดือน ÷ 100) × ค่าเฉลี่ย kWh/100 km = หน่วยไฟต่อเดือน
จากนั้น
หน่วยไฟ × ค่าไฟ 4–5 บาท = ค่าไฟที่ต้องจ่าย
| ระยะทาง/เดือน | ไฟที่ใช้ (kWh) | ค่าไฟต่อเดือน (บ้านทั่วไป) |
|---|---|---|
| 800 กม. | ~120 kWh | 450–600 บาท |
| 1,000 กม. | ~150 kWh | 600–750 บาท |
| 1,200 กม. | ~180 kWh | 700–900 บาท |
| 1,500 กม. | ~220–250 kWh | 900–1,200 บาท |
| 2,000 กม. | ~300–350 kWh | 1,300–1,700 บาท |
ค่าไฟ EV ส่วนใหญ่จะอยู่ที่
ขึ้นกับระยะทาง + พฤติกรรมชาร์จ
ถ้าใช้ Wallbox 7.4kW หรือ 11kW → ค่าไฟจะขึ้นเร็ว เพราะดึงไฟเยอะมากต่อชั่วโมง
โซล่าเซลล์ในไทยผลิตไฟเฉลี่ย:
1 kW = 120–150 หน่วย/เดือน
ถ้าค่าไฟเฉลี่ย 4–5 บาทต่อหน่วย
แปลว่า…
โซล่า 1 kW ลดค่าไฟได้ ~450–700 บาท/เดือน
ดังนั้น
ระบบ 3 kW → ลด 1,200–2,100 บาท/เดือน
ระบบ 5 kW → ลด 2,400–3,500 บาท/เดือน
ระบบ 10 kW → ลด 4,500–7,000 บาท/เดือน
และอย่าลืมว่าโหลดในบ้านมีมากกว่า EV เช่น
แอร์, เครื่องอบผ้า, ปั๊มน้ำ, ตู้เย็น, ไฟส่องสว่าง ฯลฯ
พอรวมโหลดทั้งหมด โซล่าเซลล์จึงคุ้มมากเป็นพิเศษสำหรับเจ้าของ EV
นี่คือตารางที่ Sunnergy ใช้ออกแบบระบบจริง:
| ระยะทางต่อเดือน | ไฟ EV ต่อเดือน | ระบบโซล่าที่เหมาะสม |
|---|---|---|
| 800–1,200 กม. | 120–180 kWh | 3–5 kW |
| 1,200–1,600 กม. | 180–260 kWh | 5–7 kW |
| 1,600–2,000 กม. | 260–330 kWh | 7–10 kW |
| > 2,000 กม. | 330–450 kWh | 10–15 kW |
ถ้าคุณมี EV 1 คัน → ระบบยอดนิยมคือ 5–10 kW
ถ้าคุณมี EV 2 คัน → ควรเริ่มที่ 10–15 kW
ข้อดี
คุ้มที่สุด
ราคาถูก
คืนทุนเร็วสุด
ไม่ต้องมีแบตเตอรี่
เหมาะกับ:
✔ จอดรถที่บ้านตอนกลางวัน
✔ Work from home
✔ มีพื้นที่รับแดดดี
เพราะตอนกลางคืนโซล่าไม่ผลิตไฟ
จึงต้องมีแบตเก็บไฟกลางวันมาใช้ตอนชาร์จรถ
ตัวอย่างแบตที่นิยม:
Sigenergy SigenStor
Dyness Powerbox
LVTOPSUN 48V
Huawei LUNA2000
Hybrid 10 kW + แบต 10–15 kWh
เพราะรองรับทั้งโหลดบ้าน + EV ช่วงกลางคืน
ใช้ไฟ EV = 180 kWh
ค่าไฟ = 700–900 บาท
ระบบที่เหมาะ = 5 kW
ลดค่าไฟได้ = 2,400–3,500 บาท/เดือน
👉 ชาร์จ EV ฟรี 100% เหลือไฟไปลดค่าไฟบ้านอีก
ใช้ไฟ EV = 250 kWh
ค่าไฟ = ~1,200 บาท
ค่าไฟบ้านรวมเป็น 6,000–8,000 บาท
ระบบควรเป็น = 10 kW
👉 โซล่า 10 kW ลดค่าไฟได้ประมาณ 5,000–7,000 บาท/เดือน
= ครอบคลุม EV + บ้านทั้งหมด
ใช้ไฟรวม = 350–500 kWh
ค่าไฟ EV = 1,500–2,000 บาท
กระทบบ้านหนักมาก
ระบบที่เหมาะ: 15 kW + Battery
เพราะรองรับโหลดบ้านใหญ่ + ชาร์จกลางคืนได้
✔ ค่าไฟรถ EV สูงขึ้นจริงตามการใช้งาน
✔ แต่การใช้โซล่าเซลล์สามารถ “ชดเชยไฟ EV ได้ฟรี”
✔ ลดค่าไฟได้ 2,000–10,000 บาท/เดือน
✔ ยิ่งใช้ EV มาก = ยิ่งคุ้ม
พูดง่าย ๆ คือ…
เพราะพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยชาร์จรถฟรีได้ทุกวัน
ส่ง 3 ข้อมูลนี้ให้ทีม Sunnergy แล้วผมคำนวณให้ฟรี:
ค่าไฟ 1–3 เดือน
รุ่นรถ EV + ระยะทางต่อเดือน
รูปหลังคาบ้าน
📲 โทร 061-545-5353
📩 Line OA: @sunnergy
Sunnergy — มุ่งเน้นออกแบบระบบโซล่าเซลล์คุณภาพสูงสำหรับบ้าน + รถ EV ครบวงจร
SUNNERGY