แผงโซล่าเซลล์ + แบตเตอรี่ สำหรับชาร์จรถไฟฟ้ากลางคืน ควรเลือกแบบไหนดี? คู่มือปี 2026 สำหรับเจ้าของรถ EV

กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทยปี 2025–2026 ไม่ว่าจะเป็น BYD, Tesla, MG, Ora GoodCat, GWM, Volvo EX30 หรือแม้แต่แบรนด์ยุโรปและจีนรุ่นใหม่ที่เข้าตลาด แต่ปัญหาที่เจ้าของรถ EV เจอบ่อยที่สุดมีเพียงอย่างเดียว…

❗ “กลับบ้านค่ำทุกวัน ต้องชาร์จรถตอนกลางคืน แล้วโซล่าเซลล์ช่วยอะไรได้บ้าง?”

กลางวันโซล่าผลิตไฟ → กลางคืนไม่ผลิต → จะชาร์จ EV ได้ยังไง?

คำตอบคือ: ต้องมีแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ (Lithium Battery) เพื่อเก็บไฟกลางวันไว้ชาร์จรถตอนกลางคืน

แต่หลายคนยังงงว่า

• ต้องใช้แบตกี่ kWh?

• แผงกี่ kW ถึงจะชาร์จรถไฟฟ้าได้จริง?

• ต้องเลือกระบบ Hybrid หรือ Off-Grid?

• ติด 5kW/10kW/15kW แบบไหนคุ้มสุดสำหรับบ้านตัวเอง?

บทความนี้ Sunnergy จะสรุปแบบชัดที่สุด สำหรับเจ้าของรถ EV ที่ต้องชาร์จกลางคืนโดยเฉพาะ
อ่านจบ → คุณจะรู้ว่าระบบแบบไหน “ใช่” สำหรับบ้านคุณจริง ๆ

⭐ ตอนที่ 1: ทำไมชาร์จรถไฟฟ้าตอนกลางคืนต้องมีแบตเตอรี่?

กลางวันโซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 4–5 หน่วยต่อ 1 kW
แต่กลางคืน…โซล่าไม่ผลิตไฟเลย
หลายบ้านจึงคิดว่า “ใช้แผงโซล่าอย่างเดียวก็พอ” แต่จริง ๆ แล้วไม่พอสำหรับ EV

เพราะ EV มีโหลดหนักมาก เช่น

• BYD Dolphin ชาร์จ 20–30% ต่อวัน → 8–12 kWh

• Tesla Model Y ชาร์จวันละ 40–80 km → 10–15 kWh

• MG4 ชาร์จวันละ ~15 kWh

ซึ่งถ้าต้องชาร์จตอนกลางคืน → ไม่มีไฟจากโซล่า → ต้องมี “แบตโซล่า” สำรองไฟ

ดังนั้น ถ้าคุณชาร์จรถตอนกลางคืน = ต้องมีแบตเตอรี่เสมอ 100%

⭐ ตอนที่ 2: ขั้นตอนแรก — คำนวณว่า “รถ EV ของคุณใช้ไฟเท่าไหร่ต่อคืน”

สูตรง่ายที่สุด:

(ระยะทางที่ขับต่อวัน ÷ 100) × ค่าเฉลี่ยกินไฟของรถ (kWh/100 km)

ตัวอย่างกินไฟของรถในไทย:

• BYD Dolphin 12–14 kWh

• BYD Atto 3 14–16 kWh

• Tesla Model Y 14–17 kWh

• MG4 15–18 kWh

• Ora GoodCat 16–18 kWh

ตัวอย่างลูกค้า 1

วิ่ง 60 กม./วัน
รถกินไฟ 15 kWh/100 km

= (60/100) × 15
= 9 kWh ต่อคืน

ตัวอย่างลูกค้า 2

วิ่ง 100 กม./วัน
= (100/100) × 16
= 16 kWh ต่อคืน

ดังนั้น ถ้าคุณวิ่งวันละ 60–100 กม.
คุณต้องเตรียมแบต ประมาณ 8–15 kWh เพื่อให้ชาร์จรถตอนกลางคืนได้ลื่น ๆ

⭐ ตอนที่ 3: ต้องใช้แบตกี่ kWh ถึงจะชาร์จรถกลางคืนได้จริง?

Sunnergy สรุปให้เป็น 3 ระดับง่ายที่สุด:

🔹 ระดับ 1: ชาร์จบางส่วน (Partial EV Charge)

เหมาะสำหรับ:

• บ้านที่ขับระยะทางไม่มาก

• ต้องการให้โซล่าช่วยลดภาระประมาณ 30–50%

ควรมีแบต: 5–10 kWh
ระบบโซล่า: 3–5 kW

เหมาะสำหรับรถ:

• BYD Dolphin

• MG4 วิ่งน้อย

• Ora GoodCat

🔹 ระดับ 2: ชาร์จเกือบทั้งหมด (Major EV Charge)

เหมาะสำหรับ:

• ขับประมาณ 50–100 กม./วัน

• ต้องการลดค่าไฟ EV แบบจริงจัง

ควรมีแบต: 10–15 kWh
ระบบโซล่า: 5–7 kW

เหมาะสำหรับรถ:

• Tesla Model Y/3

• BYD Atto 3

• GWM Ora

• Volvo EX30

🔹 ระดับ 3: ชาร์จหนักทุกคืน (Full Night EV Charge)

เหมาะสำหรับ:

• วิ่งไกลทุกวัน

• มี EV 2 คัน

• บ้านโหลดเยอะ (แอร์ 3–5 ตัว, เครื่องอบ, ไฟทั้งหลัง)

ควรมีแบต: 15–20+ kWh
ระบบโซล่า: 7–10+ kW

เหมาะสำหรับ:

• Tesla 2 คัน

• BYD + MG ในบ้านเดียวกัน

• ครอบครัวใหญ่ / บ้านใหญ่

⭐ ตอนที่ 4: ต้องใช้แผงกี่ kW ถึงจะชาร์จแบตทันทุกวัน?

หลักการคือ:

“แผงต้องผลิตไฟได้มากพอสำหรับทั้งบ้าน + ชาร์จแบต ก่อนพระอาทิตย์ตก”

ในไทย 1 kW ผลิตไฟเฉลี่ย 4–5 หน่วย/วัน

📊 ตารางแนะนำระบบ

⭐ ตอนที่ 5: ระบบไหนดี? Hybrid หรือ Off-Grid?

Sunnergy แนะนำแบบนี้:

🔸 Hybrid Solar + Lithium Battery (ดีที่สุดสำหรับ EV)

ข้อดี:

• ใช้โซล่ากลางวัน + แบตกลางคืน

• ถ้าแบตหมด → ใช้ไฟบ้านต่อได้

• เสถียร ปลอดภัย

• เหมาะกับรถ EV ทุกแบรนด์

• อนุญาตให้เชื่อมต่อกับการไฟฟ้าได้ถูกต้อง

เหมาะสำหรับ:
เจ้าของบ้านทั่วไป, ชาร์จกลางคืน, ต้องการความมั่นคง

อินเวอร์เตอร์ที่เหมาะ:

• Deye Hybrid

• Huawei Hybrid

• Solis Hybrid

แบตแนะนำ:

• LVTOPSUN

• Dyness PowerBox

• Sigenergy SigenStor

• Huawei LUNA2000

🔸 Off-Grid Solar + Lithium Battery (ไม่เหมาะชาร์จ EV)

ข้อดี

• ใช้ไฟจากโซล่า + แบตเท่านั้น

• ไม่ง้อการไฟฟ้า

ข้อเสีย

• ถ้าแดดน้อยหลายวัน → แบตหมดเร็ว

• ไม่รับไฟบ้าน → ชาร์จรถไม่ต่อเนื่อง

• ต้องเผื่อระบบใหญ่กว่า Hybrid 20–40%

เหมาะสำหรับ:
ฟาร์ม, บ้านสวน, จุดที่ไม่มีไฟฟ้าเลย
ไม่เหมาะกับบ้านที่มี EV

⭐ ตอนที่ 6: ตัวอย่างจริงจากลูกค้า Sunnergy

🔹 Case 1 – Tesla Model Y (ชาร์จกลางคืน)

• วิ่ง 70–100 กม./วัน

• ต้องการชาร์จตอน 19.00–23.00

• เลือก: Hybrid 10 kW + แบต 15 kWh

ผลลัพธ์:
– ชาร์จได้ต่อเนื่องทุกคืน
– ค่าไฟลด 5,000–6,500 บาท/เดือน
– ไม่ต้องกังวลไฟตกตอนชาร์จ

🔹 Case 2 – รถ EV 2 คัน (BYD + MG4)

• บ้านใหญ่ รามอินทรา

• ชาร์จสลับกันกลางคืน

• เลือก: Hybrid 15 kW + แบต 20 kWh

ผลลัพธ์:
– ใช้ไฟโซล่าชาร์จได้ 60–80%
– ค่าไฟรวมบ้านลดลงครึ่งหนึ่ง

🔹 Case 3 – บ้านกลางเมือง + EV 1 คัน

• พื้นที่หลังคาน้อย

• เลือกแบบ Set Compact 5 kW + แบต 10 kWh

ผลลัพธ์:
– ช่วยชาร์จ EV ได้บางส่วน
– ลดค่าไฟบ้านได้ดีมากช่วงเย็น–ค่ำ

⭐ ตอนที่ 7: ชุดแนะนำจาก Sunnergy (เลือกตามขนาดบ้าน + EV)

Set A — เริ่มต้น (เหมาะกับ EV 1 คัน วิ่งไม่เยอะ)

• แผงโซล่า 5 kW

• Hybrid 5 kW

• แบต 5–10 kWh

Set B — ยอดนิยม (EV 1 คัน ชาร์จกลางคืนทุกวัน)

• แผง 8–10 kW

• Hybrid 8–10 kW

• แบต 10–15 kWh

Set C — บ้านใหญ่ / EV 2 คัน

• แผง 12–15 kW

• Hybrid 10–15 kW

• แบต 15–20+ kWh

⭐ ตอนที่ 8: เช็กง่าย ๆ ก่อนเลือกว่าจะติดแบบไหน

• ขับกี่กม./วัน?

• ชาร์จรถเวลาไหน?

• บ้านมีแอร์กี่ตัว?

• มี EV กี่คัน?

• ต้องการลดค่าไฟเยอะหรือน้อย?

• บ้านอาศัยกี่คน?

• มีพื้นที่หลังคาเท่าไหร่?

⭐ สรุป — ถ้าชาร์จรถไฟฟ้ากลางคืน ระบบที่ดีที่สุดคือ…

👉 แผงโซล่า 5–10 kW + Hybrid Inverter + แบต 10–15 kWh

เพียงพอสำหรับ EV 1 คัน + โหลดบ้านทั่วไป
ถ้ามี EV 2 คัน → เพิ่มเป็น 15–20 kWh ได้เลย

และจำไว้เสมอว่า…

“ไม่มีระบบสำเร็จรูปที่เหมือนกันทุกบ้าน — ต้องออกแบบตามพฤติกรรม ใช้งานจริงของคุณเท่านั้น”

📞 ต้องการรู้ว่าบ้านคุณต้องใช้แผงกี่ kW + แบตกี่ kWh?

ส่ง 3 อย่างให้ Sunnergy ได้เลย

1. ค่าไฟบ้าน 1–3 เดือน

2. รุ่นรถ EV + ระยะทางต่อวัน

3. รูปหลังคาบ้าน

ทีมจะคำนวณให้ฟรี พร้อมออกแบบระบบที่เหมาะกับบ้านคุณที่สุด

📲 โทร 061-545-5353
📩 Line OA: @sunnergy

Sunnergy Technology
ผู้เชี่ยวชาญระบบโซล่า + แบตเตอรี่ สำหรับรถไฟฟ้าทุกแบรนด์