สิ่งที่ต้องคิดหากเลือก แผงโซล่าเซลล์ สำหรับงานธุรกิจ

สิ่งที่ต้องคิดหากเลือก แผงโซล่าเซลล์ สำหรับงานธุรกิจ

แผงโซล่าเซลล์ มีหลายแบบ ประสิทธิภาพก็ต่างกันขึ้นอยู่กับราคานั้นด้วย แต่ถ้าหากว่าตัดสินใจจะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในระบบอุตสาหกรรม ระบบเกษตรกรรม หรือระบบอื่น ๆ ต้องพิจารณาให้ดี ว่ามีกำลังวัตต์และขนาดพอใช้ต่อกระแสไฟฟ้าที่ต้องการใช้หรือไม่

แผงโซล่าเซลล์ ที่นำมาใช้งานในปัจจุบันแทบทั้งหมดทำมาจากธาตุซิลิคอน Silicon ซึ่งเป็นธาตุที่มีมากที่สุดอันดับสองบนโลก รองจากธาตุออกซิเจน พบเจอตามชายหาดท้องทะเล หิน เป็นธาตุที่มีเหลือมากมาย แต่การนำมาทำให้บริสุทธิ์ก่อนใช้งานได้นั้นต้องผ่านกระบวนหลายขั้นตอน ตรงนี้จึงมีประเภท แผงโซล่าเซลล์ ต่างกัน ราคาก็ต่างกันด้วย โดยดูจากความต่างของขนาดวัตต์และประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท เช่น แผงโซล่าเซลล์ 5 วัตต์เหมาะกับสัญญาณไฟกระพริบบนถนน แผงโซล่าเซลล์ 10 วัตต์หรือ 17 วัตต์ เหมาะกับไฟส่องสว่างตามทางเดิน แผงโซล่าเซลล์ 225 วัตต์ถึง 280 วัตต์เหมาะกับปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น

แต่ถ้าต้องการใช้ แผงโซล่าเซลล์ เข้ามาในระบบงานธุรกิจจึงจำเป็นต้องทราบว่าแต่ละวันใช้พลังงานไฟฟ้าไปทั้งหมดกี่วัตต์ เพื่อจะได้ติดตั้งจำนวนแผงโซล่าเซลล์ให้เพียงพอ

ประเภทแผงโซล่าเซลล์

แผงโซล่าเซลล์ แบ่งประเภทของโครงสร้างวัสดุไว้ 3 ประเภทหลักดังนี้

1.      Mono Crystalline มีคุณภาพสูงที่สุดคือประมาณ 15 -24 เปอร์เซ็นต์ และมีราคาแพงที่สุดด้วย

2.      Poly Crystalline นิยมใช้มากที่สุด มีประสิทธิภาพ 10 – 17 เปอร์เซ็นต์

3.      Amorphous Thinfilm ประสิทธิภาพต่ำสุด 8 – 13 เปอร์เซ็นต์ แต่มีข้อดีคือผลิตไฟฟ้าได้แม้ในวันที่มีแสงน้อย ๆ เมฆมาก ฝนตกทั้งวัน เหมาะกับสถานที่ไม่ค่อยมีแสงแดดตลอดปี นิยมไปใช้กับเครื่องคิดเลข

การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้เพียงพอตามต้องการ

แผงโซล่าเซลล์ทั่วไปใช้พื้นที่ 8 – 10 ตร.ม. / 1กิโลวัตต์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนวัตต์ต่อแผงด้วย เช่น แผงขนาด 260 วัตต์ (60 เซลล์) ต้องใช้แผงโซล่าเซลล์ 4 แผงให้ได้ไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ หรือ แผงขนาด 320 วัตต์ (72 เซลล์) ต้องใช้แผงโซล่าเซลล์ 3 แผงได้ไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์