แบตเตอรี่สำหรับโซล่าเซลล์

แบตเตอรี่สำหรับโซล่าเซลล์

แบตเตอรี่โซล่าเซลล์

แบตเตอรี่ที่เรารู้จักโดยทั่วไป สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆด้วยกัน ได้แก่

1. แบตเตอรี่ปฐมภูมิ(Primary Battery) คือ แบตเตอรี่ที่ต้องชาร์จจนเต็มมาจากโรงงาน เช่น ถ่านนาฬิกา ถ่านไฟฉาย เป็นต้น เมื่อมีการใช้ไฟในแบตเตอรี่จนหมดแล้วจะไม่สามารถกลับนำมาใช้ใหม่ได้

2. แบตเตอรี่ทุติยภูมิ(Secondary Battery) คือ แบตเตอรี่ที่สามารถนำกลับไปชาร์จใหม่ได้ เมื่อแบตเตอรี่มีไฟที่อ่อนลง เช่น แบตเตอรี่รถยนต์  

         เราจะใช้แบตเตอรี่โซล่าเซลล์แบบทุติยภูมิในระบบผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ซึ่งสามารถชาร์จได้ใหม่เมื่อแบตเตอรี่มีกำลังไฟที่อ่อนลง ในระบบของแบตเตอรี่จะทำหน้าที่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์เข้ามาไว้ แล้วปล่อยกำลังไฟฟ้าออกไปให้กับโหลดในเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ เช่นในช่วงเวลากลางคืนหรือเมฆครึ้มตลอดวัน

หลักการทำงานของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์

การทำงานของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์

แบตเตอรี่แบบตะกั่ว-กรด ประกอบด้วยเซลล์หรือหมู่ของเซลล์ต่อเข้าด้วยกัน ในหมู่ของเซลล์ประกอบขึ้นด้วยกลุ่มของแผ่นธาตุทั้งแผ่นบวกและแผ่นลบ ซึ่งแผ่นธาตุทั้งบวกและลบทำจากโลหะต่างชนิดกันกั้นด้วยฉนวน เรียกว่า “แผ่นกั้น” โดยนำมาจุ่มไว้ใน “อิเล็กโทรไลต์” หรือที่เรียกว่า “น้ำกรดผสม” น้ำกรดผสมจะทำปฏิกิริยากับแผ่นธาตุในเชิงเคมีเพื่อเปลี่ยนพลังงานเคมีเป็นพลังงานไฟฟ้า และแต่ละเซลล์สามารถจ่ายประจุไฟฟ้าได้ประมาณ 2 โวลต์ เซลล์ของแบตเตอรี่ส่วนมากจะถูกนำมาต่อเข้ากับ “แบบอนุกรม” ซึ่งจะเพิ่มโวลต์หรือแรงดันขึ้นเรื่อยๆ เช่น แบตเตอรี่ 12 โวลต์ จะต้องใช้จำนวนเซลล์ 6 เซลล์มาต่อกันแบบอนุกรม

         ในการเกิดพลังงานไฟฟ้า แผ่นธาตุสองชนิด “แผ่นบวก” คือ LEAD DIOXIDE และ “แผ่นลบ” คือ SPONGE LEAD ถูกนำมาจุ่มลงในกรดผสม “แรงดัน” ก็จะเกิดขึ้นที่ขั้วทั้งสอง เมื่อระบบแบตเตอรี่ครบวงจร กระแสก็จะไหลทันทีเพื่อเปลี่ยนพลังงานเคมีออกมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ในกรณีนี้เรียกว่า “การคายประจุไฟ” ซึ่งตัวกรดในน้ำกรดผสมจะวิ่งเข้าทาปฏิกิริยาต่อแผ่นธาตุทั้งทางบวกและลบโดยจะค่อยๆ เปลี่ยนสภาพของแผ่นธาตุทั้งสองชนิดให้กลายเป็นตะกั่วซัลเฟรต เมื่อแผ่นธาตุทั้งบวกและลบเปลี่ยนสภาพไปเป็นโลหะชนิดเดียวกัน คือ “ตะกั่วซัลเฟรต” แบตเตอรี่ก็จะไม่มีสภาพของความแตกต่างทางแรงดันกระแส ก็จะทำให้กระแสหยุดไหลหรือไฟหมด

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่

การตรวงสอบแบตเตอรี่โซล่าเซลล์

1. การจ่ายกระแสไฟฟ้า

      1.1 ควรที่จะหลีกเลี่ยงการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มากเกินความสามารถของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ เพราะการใช้งานแบตเตอรี่หนักเกินความจำเป็น จะทำให้อายุของแบตเตอรี่สั้น

      1.2 ความจุของแบตเตอรี่และสภาพการใช้ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าขึ้นอยู่กับสภาพของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ เช่น แบตเตอรี่ที่แห้งและสะอาด จะมีความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดี ใช้รถยกหรือบรรทุกสิ่งของด้วยความเหมาะสมกับความสามารถ ซึ่งควรมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

·   การจ่ายกระแสไฟฟ้า ความจุของแบตเตอรี่จะลดลงเมื่อจ่ายกระแสเพิ่มขึ้น

·   อุณหภูมิ ความจุของแบตเตอรี่จะลดลงเมื่อใช้งานในสถานที่ที่มีอุณหภูมิต่างๆ

·   การใช้งานมานาน ความจุของแบตเตอรี่จะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น

2. การประจุไฟ

       2.1 จะมีการประจุไฟให้กับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์เมื่อผ่านการใช้งานเสร็จสิ้นในแต่ละวัน แต่ควรระวังไม่ให้อุณหภูมิของ อิเล็กโทนไลต์สูงเกิน 50°C สามารถป้องกันได้โดยการลดกระแสลง

       2.2 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าในการต่อปลั๊กเพื่อการประจุไฟ ต้องแน่นกระชับ ถูกขั้ว ชาร์จเจอร์ควนอยู่ในตำแหน่ง Off เมื่อ On ชาร์จเจอร์แล้วห้ามถอด หรือขยับปลั๊กเพราะอาจทำให้เกิดประกายไฟซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสะพานไฟ