โซล่าภาคประชาชน เพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้า ลดระยะเวลาคืนทุนเหลือหนึ่งปี
คือ โครงการรับซื้อกระแสไฟฟ้าที่ครัวเรือน ผลิตได้จากแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซล่ารูฟท็อป) ซึ่งหากเหลือใช้สามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน.MEA และ กฟภ.PEA) ที่ราคา 2.20 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงแม้ว่าจะมีประชาชนขอเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก แต่ผ่านเกณฑ์จนถึงขั้นทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้มีเป็นจำนวนน้อย โดย สาเหตุที่ประชาชนไม่ผ่านเกณฑ์ส่วนใหญ่มีสาเหตุสำคัญจากระบบสายส่งไม่รองรับ หรือ บ้านที่ติดตั้งอยู่ไกลจากแนวสายส่ง
มีส่วนช่วยส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งอุปกรณ์ เช่น ระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) ให้เติบโตตาม และสอดรับกับเทรนด์ทั่วโลกที่พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เริ่มมีราคาถูกลง และจำนวนผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดโซล่ารูฟท็อปสำหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งมี 2 กลุ่มที่เป็นตลาดศักยภาพ ดังนี้
ที่ติดตั้งโซล่ารูฟท็อปมาพร้อมกับตัวบ้าน มักติดตั้งพร้อมกันเป็นจำนวนหลายร้อยหลังทำให้เกิดการประหยัดต้นทุนจากขนาด และมักออกแบบต้นทุนรวมไปกับการสร้างบ้านส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจซื้อบ้านดังกล่าวเพื่อประหยัดค่าไฟ
โดยเฉพาะครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งระบบไฟฟ้าไม่เสถียร และกลุ่มผู้พักอาศัยมีพฤติกรรมใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมาก เช่น กลุ่มผู้ประกอบอาชีพที่ใช้บ้านเป็นสำนักงาน เป็นต้น ทำให้เกิดความต้องการติดตั้งโซล่ารูฟท็อปเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าในช่วงกลางวัน ปัจจุบัน ตลาดในกลุ่มบ้านทั่วไปหรือบ้านจัดสรรเดิม มีปริมาณติดตั้งโซล่ารูฟท็อปอยู่ราว 4.9 เมกะวัตต์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การติดตั้งดังกล่าวมักมีระดับคุณภาพที่หลากหลาย ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ของโครงการโซล่าภาคประชาชนที่ได้กำหนดมาตรฐานอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้า ส่งผลให้ครัวเรือนในกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของโครงการ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจำเป็นต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้ทั้งครัวเรือน และ ผู้ประกอบการโซล่ารูฟท็อปต้องเลือกอุปกรณ์ติดตั้งให้ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด...
กระทรวงพลังงาน: ได้พิจารณามาตรการ สร้างแรงจูงใจให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อผลักดันโครงการ โซล่าภาคประชาชน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดเพื่อใช้เอง... ผ่านการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาบ้าน หรือ โซล่ารูฟท็อป โดยในเบื้องต้นมีแนวทางที่จะปรับอัตราการรับซื้อไฟฟ้าเป็นราว 2.00-2.20 บาทต่อหน่วย หลังจากที่ในปี 2562 มีการเปิดโครงการเป็นครั้งแรก