มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
โซลาร์เซลล์ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์ผนึกเดี่ยว โซลาร์เซลล์แบบผนึกรวม โซลาร์เซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
อินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะแปลงไฟกระแสสลับ (AC) จากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ ให้เป็นไฟกระแสตรง (DC) จากนั้นไฟกระแสตรงจะถูกแปลงเป็นไฟกระแสสลับที่สามารถปรับขนาดแรงดันและความถี่ ทำหน้าที่แปลงรูปคลื่น และผ่านพลังงานของอินเวอร์เตอร์ อินเวอร์เตอร์ มักถูกนำมาใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น, โทรทัศน์ และระบบเซอร์โวควบคุมมอเตอร์
เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชกที่เหนี่ยวนำเข้ามาในระบบไฟฟ้าแรงต่ำ แบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สายที่เกิดจากฟ้าผ่า การลัดวงจรของระบบส่งกำลังไฟฟ้า การปิดเปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และจากสาเหตุอื่นๆ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้ที่ปฏิบัติงานได้รับความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก ที่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้มี 2 รูปแบบ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้นและไฟกระโชกแบบช่วงยาวอุปกรณ์ป้องกันฯ ไม่มีผลต่อการกินกระแสไฟฟ้าของโหลด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อขนานกับระบบไฟฟ้า ดังนั้นกรณีที่อุปกรณ์ป้องกันฯ ได้รับความเสียหาย จึงสามารถถอดซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรมทีมีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต่อแบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก ไปตามถนนหมายเลข350 และขับต่อไปยังถนนหมายเลข351 เพื่อเข้าสู่ถนนประดิษฐ์มนูญธรรมและรามอินทรา เพื่อตัดเข้าสู่ทางพิเศษฉลองรัช เพื่ออกเส้นดินแดง-แจ้งวัฒนะ แล้วขับต่อบนถนนหมายเลข 35 และถนนหมายเลข 4 เพื่อเข้าสู่ อ.หนองหญ้าปล้อง และอำเภอแก่งกระจาน ก่อนที่จะตัดเข้าสู่ถนนหมายเลข 3349 และถนนหมายเลข 6026 ต่อไปก่อนที่จะเลี้ยวเข้าสู่ พบ.4017 และถนนหมายเลข 4009 เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดเพชรบุรีในที่สุด รวมระยะทางเดินทางทั้งสิ้น 186 กิโลเมตร และใช้ระยะเวลาเดินทางทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 45 นาที