มีอุปกรณ์อะไรบ้าง
โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
อินเวอร์เตอร์เเบบ PWM คืออินเวอร์เตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้ากระแสตรงที่มีค่าคงที่ให้เป็นกระแสไฟฟ้าแบบสลับ ที่ปรับค่าความถี่และเเรงเคลื่อนผ่านรูปแบบของสวิสต์ อินเวอร์เตอร์ชนิดนี้ยังสามารถปรับแรงเคลื่อนของไฟฟ้าและความถี่เอาท์พุตอีกด้วย
แบตเตอรี่แห้ง คือ แบตเตอรี่แบบกรดตะกั่วอีกประเภทหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดขั้นตอนในการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ จะช่วยลดโอกาสที่น้ำกรดภายในแบตเตอรี่จะรั่วไหลออกมาทำลายเครื่องยนต์ ตลอดจนอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แห้งที่มากกว่าแบตเตอรี่น้ำ ทำให้แบตเตอรี่ประเภทนี้มีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป
ภายในแบตเตอรี่แห้งบางรุ่นหรือบางยี่ห้ออาจจะมีของเหลวที่ทำหน้าที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ของแบตเตอรี่แห้งปนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรดแบบตะกั่ว หรือของเหลวที่มีลักษณะคล้ายเจล ซิลิโคน หรือแป้งน้ำ ซึ่งการใช้เจลเป็นตัวอิเล็กทรอไรต์แทนน้ำกรดนั้นจะช่วยลดอัตราการสูญเสียน้ำ เเละเพิ่มการกักเก็บแก๊สไฮโดรเจนและออกซิเจน ทำให้ลดความถี่ในการเติมน้ำกลั่น หรือไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่มเติมตลอดอายุการใช้งาน โดยแบตเตอรี่แบบแห้งส่วนใหญ่จะไม่มีรูสำหรับเติมน้ำกลั่น
“แบตเตอรี่แห้ง” เป็นที่รู้จักเเละถูกเรียกโดยย่อในหลากหลายชื่อ เช่น แบตเตอรี่แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น, แบตเตอรี่แบบซีล หรือแบตเตอรี่ VRLA หรือมักถูกเรียกโดยทั่วไปว่า “แบตเตอรี่กึ่งแห้ง” แบตเตอรี่แห้งจะได้รับการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟตามมาตรฐานโรงงานผลิตมาเรียบร้อยเเล้ว ทำให้สามารถจัดจำหน่ายเเละนำไปใช้งานได้ทันที อย่างไรก็ตามหากแบตเตอรี่ดังกล่าวถูกเก็บไว้มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ควรต้องตรวจเช็กไฟในแบตเตอรี่ก่อนนำไปใช้งาน เนื่องจากไฟในแบตเตอรี่อาจอ่อนลง
อินเวอร์เตอร์ จะมีหน้าที่แปลงไฟกระแสสลับ จากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ ให้เป็นไฟกระแสตรง โดยวงจรคอนเวอร์เตอร์ จากนั้นไฟกระแสตรงจะถูกแปลงเป็นไฟกระแสสลับที่สามารถปรับขนาดแรงดันและความถี่ได้โดยวงจรอินเวอร์เตอร์ วงจรทั้งสองนี้จะเป็นวงจรหลักที่ทำหน้าที่แปลงรูปคลื่น และผ่านพลังงานของอินเวอร์เตอร์
kbss รุ่น 7 ขนาด 640*920*250 มม จำนวน 1 เครื่อง
ตู้คอนโทรลระบบไฟฟ้า หรือตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า คือ กล่องที่ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมในการควบคุมระบบไฟฟ้าที่หลายแหล่ที่อยู่ในที่พักอาศัย อาคาร สำนักงาน ไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่ ตัวตู้จะถูกติดตั้งเอาไว้เพื่อช่วยให้สามารถควบคุมระบบการทำงานของไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น การติดตั้งที่ใช้กันในปัจจุบัน มีให้เลือกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นชุดขนาดเล็ก ชุดขนาดใหญ่สำหรับอาคาร และชุดขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกเพื่อใช้งานกับตึกระฟ้า กรณีที่เป็นที่พักอาศัยในลักษณะของบ้าน อพาร์ทเม้น หรือห้องชุด อย่างน้อยที่สุดภายในอาคารที่อาศัยอยู่ร่วมกันนั้นจะต้องมีตู้คอนโทรลระบบไฟฟ้า ซึ่งมักใช้เป็นชนิด Consumer Unit หรือ Load Center ภายในตู้ ยังแบ่งออกเป็น Breaker ย่อยเพื่อแบ่งแยกการจ่ายไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภท นอกจากนี้หน้าที่ของอุปกรณ์ยังช่วยป้องกันความเสียหายให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ จากฟ้าผ่าได้
ระบบออฟกริด เป็นระบบที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือสำหรับหลังคาเรือนที่มีปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ไฟฟ้าไม่เสถียร ไฟตก ไฟดับ หรือเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามกลางคืน เหมาะแก่การติดตั้งตามบ้านพักที่อยู่อาศัย นา ไร่ สวน พื้นที่บนดอยและเกาะต่างๆ ระบบออฟกริดเป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า โดยไฟฟ้าที่ผลิตมานั้นจะถูกเก็บสำรองในแบตเตอรี่และสามารถนำมาใช้งานได้เมื่อเปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยปริมาณความจุของแบตเตอรี่ (จำนวนลูกแบตเตอรี่) จะขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการใช้พลังงานของบ้านแต่ละหลัง การติดตั้งระบบออฟกริดแบบนี้จะมีส่วนช่วยให้ทุกคนหมดปัญหาเรื่องไฟได้เป็นอย่างดี
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกไปตามถนนหมายเลข 350เข้าสู่ซอยนวมินทร์ 74 ผ่านถนนรามอินทรา-นวมินทร์ และขับต่อบนถนนหมายเลข304 เพื่อตัดเข้าถนนรามอินทรา เข้าสู่ซอยรามอินทรา/สะพานนพรัตนราชธานี และถนนสุวินทวงศ์ และตัดเข้าถนนมหยาจักรพรรดิ ผ่านตลาดบ้านใหม่/บางน้ำเปรี้ยว-ฉะเชิงเทรา และเข้าสู่ถนนเปรมประชา และถนนพานิช จนถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด ใช้ระยะเวลาเดินทางทั้งสิ้น 55นาที ตลอดระยะทาง54 กิโลเมตร