มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟ ที่ใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยจะทำการซิงโครไนซ์กัน ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซล่าเซลล์ กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อใช้ไฟฟ้าเราก็จะดึงพลังงานกระแสไฟที่เราผลิตได้มาใช้จึงทำให้เราประหยัดและลดค่าใช้จ่าย แถมยังสามารถขายไฟฟ้าที่เราไ่ม่ได้ใช้ทางอ้อมด้วย(กรณีนี้ต้องยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าก่อน)
ข้อจำกัดในการใช้งานคือ กริดไทด์อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลากลางคืน และในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับ อินเวอร์เตอรจะหยุดทำงานทันที แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์ยังคงใช้งานอยู่ก็ตาม
ข้อแนะนำการใช้งาน กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ ก่อนจะนำมาใช้งาน ควรคำนวณการใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถช่วยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้
เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีส่วนช่วยป้องการเสียหายในวงกว้างได้ดี การติดตั้งอุปกรณ์กันย้อนมีหลักการทำงานคือ จะใช้ตัว ct ตรวจจับกระแสการใช้งานในบ้านทั้งหมด ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายเพราะไม่ต้องถอดสายเมนการทำงานคือหากตัว ct ตรวจจับกระแสได้น้อยตัวควบคุมจะสั่งงานให้แผงโซล่าเซลล์จ่ายกระแสไฟฟ้าน้อยลง และจะผลิตกระแสไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่นั้นๆ และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้ามาก ตัวควบคุมก็จะสั่งงานให้รีเลย์จ่ายกระแสไฟเต็มที่ จนทำให้มิเตอร์บริเวณหน้าบ้านหมุนได้ช้าลงหรือหยุดหมุน ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟได้
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก ที่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้มี 2 รูปแบบ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้นและไฟกระโชกแบบช่วงยาวอุปกรณ์ป้องกันฯ ไม่มีผลต่อการกินกระแสไฟฟ้าของโหลด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อขนานกับระบบไฟฟ้า ดังนั้นกรณีที่อุปกรณ์ป้องกันฯ ได้รับความเสียหาย จึงสามารถถอดซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังอำเภออ่างศิลา
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกไปตามถนนหมายเลข350 เข้าสู่ถนนรามอินทรา เพื่อตัดเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เพื่อตัดเข้าทางพิเศษบูรพาวิถี เข้าไปยังถนนหมายเลข 34 ผ่านแยกบางทราบ คลองสังเขป สะพานชลมารควิถี ตรงต่อไปยังอบจ.ชลบุรี แล้วเข้าสุ่ถนนพระยาสัจจา และถนนหมายเลข 3134 จนถึงจุดหมายปบายทางที่ตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี รวมระยะทางเดินทางทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 25 นาที และรวมระยะทางเดินทางทั้งสิ้น 88 กิโลเมตร
เทศบาลเมืองอ่างศิลา เป็นเทศบาลเมืองแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นหมู่บ้านชาวประมงริมทะเลที่มีชื่อเสียงด้านการทำครกหินและผลิตภัณฑ์จากทะเลตากแห้ง ปัจจุบันเป็นมีการขยายตัวของหมู่บ้านจัดสรรในอ่างศิลาเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากอ่างศิลาไปประมาณ 5 กิโลเมตร
เทศบาลเมืองอ่างศิลาก่อตั้งจากการที่กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นว่าสมควรยกฐานะท้องถิ่นตำบลอ่างศิลาและตำบลบ้านปึกทั้งตำบล บางส่วนของตำบลเสม็ด และบางส่วนของตำบลห้วยกะปิ ซึ่งเดิมอยู่ในพื้นที่ของสุขาภิบาลแสนสุข จัดตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งใหม่มีชื่อว่า สุขาภิบาลอ่างศิลา เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2530 จากนั้นในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2537 ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ โดยขยายออกไปถึงคลองบางโปรง ซึ่งแนวเขตสุขาภิบาลจะเลียบคลองบางโปรงจนถึงปากคลองบางโปรง และมีการเปลี่ยนแปลงฐานะครั้งแรกจากสุขาภิบาลเป็น เทศบาลตำบลอ่างศิลา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 และครั้งล่าสุดจากเทศบาลตำบลเป็น เทศบาลเมืองอ่างศิลา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 255
เทศบาลเมืองอ่างศิลาอยู่ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองชลบุรีมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ภูมิประเทศในอ่างศิลา ประกอบด้วยหินอัด เป็นประเภทหินแกรนิตและหินทราย หินแกรนิตที่พบแทรกตัวขึ้นมาสลับระหว่างหินชั้น ซึ่งพบมากตามแหล่งที่เป็นเขาติดกับฝั่งทะเล และจากการที่มีหินแกรนิต ซึ่งมีสีขาวนวล สีเหลืองอ่อน และมีความแข็งแกร่งจำนวนมาก ทำให้เกิดอาชีพการทำครกหินและเป็นสัญลักษณ์ของอ่างศิลา
ขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย