ในปัจจุบันการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์หรือโซล่าเซลล์นั้นกำลังเป็นที่นิยมและกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายการอุปโภคและบริโภคจากการใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือที่พักอาศัยขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่รวมถึงการนำไปใช้ในรูปแบบธุรกิจทั้งในโรงงานอุตสาหกรรมหรือแม้แต่ในโรงงานขนาดเล็ก
ทำให้มีปัจจุบันมีผู้ให้บริการรับติดตั้งโซล่าเซลล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสามารถตอบโจทย์และรองรับความต้องการจากลูกค้าหรือผู้ที่มีความสนใจในการติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้น
โดยการติดตั้งโซล่าเซลล์นั้นจะคิดจากความต้องการของผู้ที่ต้องการใช้ว่าต้องการนำไปใช้ประโยชน์ยังไง เช่น บ้านพักหรือที่อยู่อาศัยหรือแม้แต่ในโรงงานอุตสาหกรรม
โดยสำหรับบ้านพักอาศัยนั้นจะมีขนาดตั้งแต่ 1-12 กิโลวัตต์ (kWp.) หรือ 1,000-12,000 วัตต์ ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าไฟได้มากถึง 30-70% ในตอนกลางวัน โดยเราสามารถเลือกขนาดให้เหมาะกับความต้องการของเราได้โดยการคำนวณจากการค่าไฟและงบประมาณในการติดตั้ง ให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคน
ซึ่งโซล่าเซลล์สำหรับบ้านพักหรือที่อยู่อาศัยนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมติดตั้งระบบออนกริดซึ่งจะเชื่อมต่อเข้ากับไฟฟ้าของบ้านและระบบของการไฟฟ้า เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่หากเราใช้ไฟเหลือเราก็สามารถขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วยซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
2. อินเวอร์เตอร์ สำหรับ 850 KW เราจะใช้เป้นอินเวอร์เตอร์ 50KW จำนวน 17 ตัว เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใช้ในการเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรงให้
เป็นไฟฟ้ากระแสแบบสลับ ซึ่งไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์นั้นจะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง และจะส่งผ่านไปยังอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเราควรคำนวณการใช้งานให้เหมาะสมก็จะสามารถช่วยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้ จึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนติดตั้ง
โดยอินเวอร์เตอร์นั้นมีหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
แบบที่ใช้กับระบบสแตนอโลน (Stand-Alone System) หรือระบบออฟกริต (Off-grid System)
แบบระบบกริตไทน์ Inverter (Grid-Tied Inverter)หรือระบบ ออนกริต(On-grid System) ใช้กับระบบที่มีการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า
มีระบบการทำงานและการใช้งานที่แตกต่างกันคือ แบบที่ใช้กับระบบสแตนอโลน (Stand-Alone System) จะใช้กับการติดตั้งโซล่าเซลล์แบบ Off-gridหรือแบบที่ต้องสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่แต่กริตไทน์ Inverter(Grid-Tied Inverter) จะใช้กับการติดตั้งโซล่าเซลล์ด้วยระบบ On-grid
3. อุปกรณ์กันไฟย้อนมิเตอร์
2. อินเวอร์เตอร์ สำหรับ 90 KW เราจะใช้เป้นอินเวอร์เตอร์ 30 KW จำนวน 3 ตัว เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใช้ในการเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรงให้
โดยอินเวอร์เตอร์นั้นมีหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
แบบที่ใช้กับระบบสแตนอโลน (Stand-Alone System) หรือระบบออฟกริต (Off-grid System)
แบบระบบกริตไทน์ Inverter (Grid-Tied Inverter)หรือระบบ ออนกริต(On-grid System) ใช้กับระบบที่มีการเชื่อมต่อกับการไฟฟ้า
มีระบบการทำงานและการใช้งานที่แตกต่างกันคือ แบบที่ใช้กับระบบสแตนอโลน (Stand-Alone System) จะใช้กับการติดตั้งโซล่าเซลล์แบบ Off-gridหรือแบบที่ต้องสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่แต่กริตไทน์ Inverter(Grid-Tied Inverter) จะใช้กับการติดตั้งโซล่าเซลล์ด้วยระบบ On-grid
3. อุปกรณ์กันไฟย้อนมิเตอร์
4. ตู้ควบคุมการทำงานระบบพร้อมอุปกรณ์กันไฟกระโชก เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชกที่เหนี่ยวนำเข้ามาในระบบไฟฟ้าแรงต่ำ แบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สาย ซึ่งอาจจะเกิดจากฟ้าผ่า การลัดวงจรของระบบส่งกำลังไฟฟ้า การปิดเปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และจากสาเหตุอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ขณะนั้น ได้รับความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้นและไฟกระโชกแบบช่วงยาว อุปกรณ์ป้องกันไม่มีผลต่อการกินกระแสไฟฟ้าของโหลด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อขนานกับระบบไฟฟ้า ดังนั้นกรณีที่อุปกรณ์ป้องกันฯ ได้รับความเสียหาย จึงสามารถถอดซ่อมและเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
5. mounting system หรือ อุปกรณ์โครงสร้างอะลูมิเนียมที่ใช้สำหรับติดตั้งและยึดติดแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา
การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์สำหรับโรงงาน จะแบ่งลักษณะการติดตั้ง Solar PV Rooftop จะเป็น 2 ลักษณะ
1.1. หลังคาแบบ เมทัลชีท
1.2. หลังคา CPAC
1.3. หลังคากระเบื้องลอนคู่
โดย อุปกรณ์จับยึดแผงโซล่าเซลล์ หรือ Solar Mounting นั้น แบ่งตามการจับยึดกับโครงหลังคาเป็น 2 แบบ ดังนี้
Rail หรือ เรล เป็นตัวราง ซึ่งจะมีความยาวราวๆ 4 เมตรกว่า ๆ ( ควรเลือกซื้ออุปกรณ์จับยึดชิ้นอื่นๆให้ตรงยี่ห้อกับ Rail เพื่อความเข้ากันได้ ) รางอลูมิเนียมของ Sunnergy เป็นรางที่ออกแบบ สำหรับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์โดยเฉพาะ จึงมีความแข็งแรง ทนทาน เหนียว สามารถรองรับน้ำหนักของแผงโซล่าเซลล์ได้ตลอดอายุการใช้งาน สามารถต้านแรงลม และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น รางอลูมิเนียมที่ถูกออกแบบมาใช้สำหรับติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ Sunnergy Solar Mounting จะมีน้ำหนักเบา เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นหลังคากระเบื้องซีแพค กระเบื้องลอนคู่ หลังคาเมทัลชีท ทำให้น้ำหนักที่เพิ่มมาไม่มากบนหลังคา เพราะน้ำหนักของโครงสร้างอลูมิเนียมจะน้อยกว่าการใช้โครงสร้างแบบโครง-โครงเหล็ก นอกจากนี้รางโครงสร้างอลูเนียมจะสามารถนำไปใช้ติดตังแผงโซล่าเซลล์บนดาดฟ้า หรือ บนพื้นดินก็ได้เช่นกัน เพราะใช้งานได้ง่าย เสร็จงานเร็ว ลดระยะเวลาในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์
L-Fleet ( Support Rail ) ใช้สำหรับจับยึด Rail ส่วนอีกด้านหนึ่งใช้สกรูยึดกับแปหลังคา
Roofting Screw หรือสกรูยึดแผ่นเมทัลชีทกับแปหลังคา
End-Clamp Assembly เป็นตัวล็อคปิดท้ายแผงโซล่าเซลล์ที่อยู่ด้านข้าง ยึดติดกับรางอลูมิเนียมในการติด ตั้งแผงโซล่าเซลล์ เรียกง่ายๆว่าเป็นตัวยึดแผ่นโซล่าเซลล์ตัวแรกและตัวสุดท้าย มีส่วนให้แต่ละแถวที่วางแผง โซล่าเซลล์สามารถวางบน Rail ได้โดยไม่ไหลลื่นออก
Mid-Clamp Assembly ตัวกดระหว่างแผงโซล่าเซลล์ให้แน่นขึ้น เป็นตัวล็อกแผงโซล่าเซลล์ Mid Clamp และ End Clamp โดย Mid clamp หรือ Middle Clamp เป็นล๊อคจับยึดระหว่างแผงโซล่าเซลล์แต่ละแผ่นกับรางอลูมิเนียม
Ground Plate เป็นแผ่นโลหะบางสำหรับจิกกับ Rail เพื่อให้โครงแผงโซล่าเซลล์กับ Rail เชื่อมถึงกัน ( เพื่อเชื่อมต่อลงกราวนด์ระบบ ) โดยใช้วางสอดเข้าไปตอนที่ยึด Mid-Clamp
Join Rail หากทำการวางแผงโซล่าเซลล์เป็นแถวยาวมากกว่าความยาวของ Rail ( ประมาณ 4 เมตร) Join Rail จะมีหน้าที่ทำการเชื่อมต่อระหว่าง Rail ให้ต่อกัน
เป็นพลังงานสะอาด การทำงานของโซล่าเซลล์นั้นเป็นการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ทันที โดยที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อธรรมชาติหรือมนุษย์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้พลังงานที่ได้จากแสงอาทิตย์นั้นเป็นพลังงานที่สะอาด ซึ่งแตกต่างกับโรงงานผลิตไฟฟ้าต่างๆ ที่มีกระบวนการในการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีอันตรายต่อคน สัตว์และสิ่งแวดล้อ
เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด เพราะการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์นั้นสามารถเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์นั้นเป็นพลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์ซึ่งไม่มีวันหมดไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ไม่มีวันหมดไปนั้นก็เท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้นั้นก็จะไม่มีวันหมดไปเช่นกัน
ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้านหรือที่อยู่อาศัย ไปจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
ลดค่าไฟ สามารถช่วยลดค่าไฟและค่าใช้จ่ายให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนที่สั้น โดยช่วยประหยัดค่าไฟได้มากถึง 30-70% ขึ้นอยู่กับขนาดของการติดตั้ง
เป็นพลังงานทดแทนที่ดี นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
มีอายุการใช้งานที่นาน มีอายุการใช้งานที่นานมากถึง 25 ปี ทำให้เราติดตั้งครั้งเดียวแล้วสามารถใช้ได้ในระยะยาว
สามารถขายไฟที่เหลือได้ หากเราใช้ไฟเหลือไม่หมดเราสามารถเข้าร่วมโครงขายไฟคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอีกทางนึง