วันนี้เรามาทำความรู้จักกับหลอดไฟแอลอีดี กันสักหน่อยดีกว่าครับ
ชื่อภาษาอังกฤษว่า Light-emitting diode หรือเรียกย่อๆว่า LED ซึ่งแปลตรงตัวว่า ไดโอดเปล่งแสง
ซึ่ง เป็นชิ้นส่วน อิเลคทรอนิกส์ ชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถเปล่งแสงสว่างได้เมื่อมีกระแสไฟไหลผ่าน โดยความพิเศษของมันอีกอย่างก็คือ ใช้กระแสไฟฟ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถส่องแสงสว่างออกมาได้แล้ว แถมยังสว่างกว่าหลอดไฟแบบเดิมๆอีกด้วย
หลอดไฟแอลอีดี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. สำหรับใช้ภายในอาคาร
2. สำหรับใช้ภายนอกอาคาร
3. สำหรับการตกแต่ง
กำเนิดและที่มาของ LED
นวัตกรรมของหลอดไฟแอลอีดี นี้ ได้กำเนิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 และเริ่มเป็นที่สนใจจริงๆก็ในปี ค.ศ. 1996 และ ด้วยความที่เริ่มเล็งเห็นถึงคุณประโยชน์อันหลากหลาย และประสิทธิภาพที่ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างดีเยี่ยม จึงเริ่มมีการคิดค้นและเกิดการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
โดยในช่วงแรกนั้น เราได้นำมาใช้ครั้งแรกเพื่อการบ่งบอกสัญญาณ (Indicator light) สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อบอกถึงสถานะของตัวเครื่อง เช่น นาฬิกา เครื่องคิดเลข รีโมทคอนโทรล เครื่องเล่นวิดีโอและกระติกน้ำร้อน ด้วยความที่หลอดไฟแอลอีดี นั้นมีขนาดเล็กจิ๋ว และมีเพียงสีร้อนๆ อย่าง สีแดง สีส้ม สีเหลือง ต่อมาจึงได้มีการพัฒนาสร้างให้มีสีโทนเย็นบ้าง อย่างสีเขียวและสีน้ำเงิน จนกระทั่งได้เป็นสีขาว จึงเริ่มมีการคิดนำมาใช้แทนหลอดไฟอย่างจริงจังในที่สุด รวมทั้งยังสามารถผสมสี RGB ทำ ให้สามารถสร้างสีสันเพื่อเติมเต็มจินตนาการแห่งการสร้างสรรค์ในเชิงสถาปนิก เพื่อนำมาใช้ประดับตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคารรวมทั้งโรงงาน อุตสาหกรรมต่างๆได้อีกมากมายไม่รู้จบ
ข้อดีและคุณประโยชน์ของหลอดไฟแอลอีดี
หลอด ไฟแอลอีดี มีจุดเด่นที่น่าใช้กว่าหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนส์ธรรมดาทั่วๆไปก็คือ ใช้พลังงานต่ำและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งยังมีความทนทาน และด้วยความที่มีขนาดเล็ก ทำให้สามารถนำไปดัดแปลงใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลายมากๆ เช่น การติดตั้งในรถยนต์ เครื่องบิน ป้ายโฆษณา สัญญาณไฟจราจร ตู้ปลาโดยเฉพาะตู้ปะการังที่ให้แสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการ เจริญเติบโตของปะการังได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเหมาะกับใช้เป็นไฟบนเวทีและห้องผ่าตัดอีกด้วยโดยข้อดีของหลอดไฟแอลอีดีนั้น สามารถจำแนกได้เป็นข้อๆดังนี้
1. ประหยัดพลังงาน เพราะให้แสงสว่างมาก แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย โดยไฟฟ้าน้อยกว่าหลอดไส้ทั่วไปถึง 80-90%
2. ช่วยประหยัดไฟในห้องแอร์ได้ โดยช่วยให้เครื่องปรับอากาศในห้องทำงานน้อยลง เพราะอุณหภูมิที่ออกมาจากหลอดแอลอีดี นั้นไม่สูง ไม่ร้อน จึงไม่รบกวนการทำงานของเครื่องปรับอากาศในห้อง
3. แสงที่ออกมาจากหลอดไฟชนิดนี้ ไม่ทำให้เคืองตาและช่วยถนอมสายตา ทั้งยังเหมาะกับการอ่านหนังสือด้วย
4. อายุการใช้งานที่ยาวนาน กว่า 35,000 - 50,000 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น ถ้าเราใช้ในบ้านเองหรือสำหรับโรงงานที่มีการเปิดไฟเพียงวันละ 8-12 ชั่วโมง ก็จะยิ่งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
5. เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าเพราะไม่มีสารปรอทเจือปนเหมือนกับหลอดประเภทอื่น และยังย่อยสลายง่ายกว่า เพราะตัวหลอดไฟนั้นผลิตจากพลาสติกและโพลีเมอร์
6. ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงสามารถช่วยลดปริมาณขยะจากการทิ้งหลอดไฟลงด้วย
7. มีความทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ไม่เปราะแตกง่าย จึงนิยมติดตั้งกันมากบนเครื่องบินและรถยนต์
8. แสงที่ส่องสว่างนั้น ปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก โดยแสงสว่างที่ออกมาจะให้อุณหภูมิที่ไม่สูงเหมือนหลอดไส้ทั่วๆไป
9. ไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นแก้ว กระจก ที่อาจเป็นอันตรายเมื่อแตกหัก
10. สามารถ เปิด-ปิด ได้รวดเร็ว ติด-ดับ ทันใจ เพราะไม่ต้องมีการสะสมพลังงานหรือตัวช่วยสตาร์ทแบบหลอดฟลูออเรสเซนส์อีกทั้ง ยังไม่มีอาการกระพริบ แถมยังไม่มีความเสื่อมเกิดขึ้นจากการเปิดปิดสวิทช์บ่อยๆ
11. ให้แสงสว่างคงที่ต่อเนื่อง และมีการกระจายแสงที่เหมาะสม
12. ไม่มีรังสี UV ซึ่งก็แปลว่าแสงที่ออกมานั้น จะไม่รบกวนดวงตาและไม่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
13. สามารถเปลี่ยนและติดตั้งได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขั้วหลอด
ข้อเสีย ของหลอดไฟ LED
สำหรับ ข้อเสียนั้นมีเพียงข้อเดียว ก็คือ มีราคาที่แพงกว่าหลอดฟลูออเรสเซนส์ทั่วไป (แต่ถ้าคำนวณกันจริงๆแล้วเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่ามาก เพราะมีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลายเท่าตัว)
www.sunnergytech.com
โทร : 061-545-5353;02-101-8991
062-880-0125;092-248-2637;092-247-8576
Line ID: @sunnergy