อยากรู้มั้ย? ทำไมบ้านติดโซล่าเซลล์ระบบ HYBRID ถึงคุ้มกว่าระบบ ON Grid

5 เดือนที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

อยากรู้มั้ย? ทำไมบ้านติดโซล่าเซลล์ระบบ HYBRID ถึงคุ้มกว่าระบบ ON Grid | Sunnergytech

ในยุคที่ค่าไฟแพงขึ้นทุกปี หลายคนหันมาสนใจการติดตั้งโซล่าเซลล์มากขึ้น แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจก็คือ “ระบบ HYBRID กับ ON Grid ต่างกันยังไง แล้วแบบไหนคุ้มกว่า?” วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกระบบทั้งสองแบบ พร้อมเปรียบเทียบกันชัด ๆ ว่าทำไม “ระบบ HYBRID ถึงตอบโจทย์มากกว่า”

1. เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง HYBRID และ ON Grid

หัวข้อ	ระบบ ON Grid	ระบบ HYBRID
การทำงาน	ใช้ไฟจากแผงโซล่าเซลล์ก่อน และหากไม่พอจะดึงไฟจากการไฟฟ้า	ใช้ไฟจากแผงโซล่าเซลล์ และเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ หากยังไม่พอจึงดึงจากการไฟฟ้า
การเก็บพลังงาน	ไม่มีระบบเก็บพลังงาน	มีแบตเตอรี่เก็บไฟไว้ใช้ยามค่ำคืนหรือไฟดับ
ไฟดับ	ใช้งานไม่ได้หากการไฟฟ้าดับ	ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ต่อได้แม้ไฟดับ
การขายไฟกลับ	ขายไฟส่วนเกินกลับการไฟฟ้าได้ (Net Metering)	บางรุ่นสามารถขายไฟกลับได้ หากเชื่อมกับระบบ ON Grid
ความคุ้มค่า	ลดค่าไฟเฉพาะช่วงกลางวัน	ลดค่าไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคาติดตั้ง	ราคาถูกกว่า เพราะไม่มีแบตเตอรี่	ราคาสูงกว่าเล็กน้อย เพราะมีแบตเตอรี่ร่วม

สรุปง่าย ๆ: ON Grid เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟกลางวันเยอะ ส่วน HYBRID เหมาะกับคนที่ใช้ไฟทั้งวันทั้งคืน และอยากมีไฟสำรองเวลาไฟดับ

2. ตารางเปรียบเทียบค่าไฟ ระหว่าง 2 ระบบ
สมมุติบ้านหลังหนึ่งใช้ไฟเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท

รายการ	ระบบ ON Grid 5kW	ระบบ HYBRID 5kW (พร้อมแบตเตอรี่)
ค่าไฟก่อนติด	3,000 บาท/เดือน	3,000 บาท/เดือน
ประหยัดหลังติด	ประหยัดเฉลี่ย 1,500-2,000 บาท/เดือน	ประหยัดเฉลี่ย 2,000-2,500 บาท/เดือน
ค่าไฟหลังติดตั้ง	เหลือ 1,000-1,500 บาท/เดือน	เหลือ 500-1,000 บาท/เดือน
ไฟใช้ตอนกลางคืน	ใช้ไฟจากการไฟฟ้า	บางรุ่นสามารถขายไฟกลับได้ หากเชื่อมกับระบบ ON Grid
ค่าใช้จ่ายรวม 25 ปี	ลดค่าไฟเฉพาะช่วงกลางวัน	ใช้ไฟจากแบตเตอรี่
ราคาติดตั้ง	ประมาณ 400,000-500,000 บาท	ประมาณ 250,000-300,000 บาท (รวมค่าดูแลแบตเตอรี่)

แม้ HYBRID จะเริ่มต้นแพงกว่า แต่ในระยะยาว “จ่ายน้อยกว่า” และยังได้ระบบสำรองไฟเพิ่มอีกต่างหาก

3. ตัวอย่างเคสการใช้งานให้เห็นภาพความต่าง

เคส 1: บ้านหลังใหญ่ที่มีคนอยู่ตลอดวัน

เจ้าของบ้านคุณวัฒน์ เป็นเจ้าของกิจการ ทำงานจากบ้าน และมีแม่วัยเกษียณอยู่บ้านตลอด เขาเลือกติดตั้งระบบ HYBRID ขนาด 10kW พร้อมแบตเตอรี่ 10kWh

ตอนกลางวันใช้ไฟจากแผงโซล่าเซลล์
ตอนกลางคืนดึงไฟจากแบตเตอรี่ที่เก็บไว้
เวลาไฟดับ ก็ยังใช้งานพัดลม แอร์ และอินเทอร์เน็ตต่อได้

ผลลัพธ์: ค่าไฟจากเดือนละ 6,000 บาท เหลือแค่ 1,200 บาทต่อเดือน คุ้มทั้งค่าใช้จ่ายและความมั่นใจเรื่องไฟฟ้า

เคส 2: บ้านทั่วไปที่ไม่มีแบตเตอรี่

คุณแนน อยู่บ้านกับครอบครัว 4 คน ติดตั้งระบบ ON Grid 5kW โดยไม่มีแบตเตอรี่

กลางวันใช้ไฟจากโซล่าเซลล์
กลางคืนยังต้องใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้า
วันหยุดหรือช่วงใช้ไฟเยอะ ค่าไฟยังสูง

ผลลัพธ์: ลดค่าไฟได้เพียงบางช่วง แต่หากไฟดับในตอนกลางคืน ระบบจะหยุดทำงาน

4. ข้อดีของระบบ HYBRID ที่คุณอาจยังไม่รู้

ใช้ไฟได้ต่อเนื่อง แม้ไฟดับ ระบบ HYBRID จะสลับมาใช้แบตเตอรี่ทันทีเมื่อไฟดับ ทำให้ไฟไม่กระชาก อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่พัง
บริหารพลังงานได้อิสระกว่า คุณสามารถตั้งค่าการใช้แบตเตอรี่ เช่น ให้ใช้ตอนช่วง Peak Time (17.00-22.00 น.) ที่ค่าไฟแพงที่สุด
เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนทำงานที่บ้าน เพราะไม่ต้องเสี่ยงอยู่ในบ้านมืด ๆ หรือร้อน ๆ ถ้าไฟดับกะทันหัน
ลดภาระค่าไฟได้ยาว ๆ เพราะสามารถใช้พลังงานที่ผลิตได้เองเต็มระบบ ทั้งกลางวันและกลางคืน

5. แล้วต้องลงทุนเท่าไหร่ถึงจะคุ้ม?

ระบบ	ราคาติดตั้งโดยประมาณ	ระยะคืนทุน
ON Grid 5kW	เริ่มต้นประมาณ 150,000 - 170,000 บาท	5-7 ปี
HYBRID 5kW (แบต 10kWh)	เริ่มต้นประมาณ 250,000 - 300,000 บาท	7-9 ปี (ขึ้นกับการใช้งาน)

แต่หากรวมความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการใช้งานระยะยาว HYBRID จัดว่า “คุ้มกว่า” อย่างชัดเจน

6. จะเลือก HYBRID ต้องรู้อะไรอีก?

เลือกแบตเตอรี่ลิเธียมคุณภาพสูง เช่น LiFePO4 เพราะทนทาน ใช้ได้ 10-15 ปี
ต้องมี Inverter แบบ HYBRID ที่สามารถเชื่อมแผง แบตเตอรี่ และการไฟฟ้าได้ในตัว
ติดตั้งโดยช่างที่ชำนาญ เพื่อให้ระบบเสถียรและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

7. สรุปง่าย ๆ ว่าใครควรเลือกแบบไหน?

คุณสมบัติผู้ใช้งาน	ควรเลือกระบบ
อยู่บ้านกลางวันเท่านั้น	ON Grid
ใช้ไฟทั้งกลางวัน-กลางคืน	HYBRID
ต้องการไฟสำรอง	HYBRID
งบประมาณจำกัด	ON Grid
ต้องการควบคุมพลังงานเต็มที่	HYBRID

สรุป: HYBRID คือลงทุนที่ชาญฉลาดในระยะยาว

แม้ระบบ HYBRID จะดูมีต้นทุนสูงกว่าระบบ ON Grid เล็กน้อย แต่ความสามารถในการเก็บพลังงานไว้ใช้ตอนกลางคืน การมีไฟสำรอง และการลดค่าไฟได้มากกว่าในระยะยาว ทำให้ HYBRID กลายเป็นทางเลือกที่ “คุ้มกว่า” สำหรับครอบครัวที่ใส่ใจในเรื่องความมั่นคงทางพลังงาน และไม่อยากพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอกตลอดเวลา