ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์ เราทราบดีว่าหลายคนให้ความสำคัญกับการเลือกแผงและอินเวอร์เตอร์ แต่มีอุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่งที่มักถูกมองข้ามหรือเลือกผิดพลาด นั่นคือ RCBO (Residual Current Circuit Breaker with Overcurrent Protection) หรือเบรกเกอร์กันดูดที่มีระบบป้องกันกระแสเกินในตัว
ภาพนี้แสดงถึงคุณสมบัติทางกายภาพและฟังก์ชันการทำงานของ RCBO ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานในอาคารพักอาศัย
Max current up to 63A: แสดงพิกัดกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่เบรกเกอร์สามารถทนได้คือ 63 แอมแปร์
High flame retardant, high temperature resistance and impact resistance: วัสดุที่ใช้มีความสามารถในการ ทนไฟสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และทนทานต่อแรงกระแทก
Contact indication window, easy to see ON/OFF status: ช่องแสดงสถานะของหน้าสัมผัส ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบว่าเบรกเกอร์อยู่ในสถานะ เปิด (ON) หรือ ปิด (OFF)
Leakage tripping indication (pop-up indicates leakage tripping): ช่องแสดงสถานะการทริปเนื่องจาก กระแสไฟฟ้ารั่ว โดยจะมีปุ่ม/ชิ้นส่วนสีส้มเล็ก ๆ เด้งออกมาเมื่อเกิดไฟรั่ว
Wind groove design on the side for quickly heat spill out: มีการออกแบบร่องระบายอากาศด้านข้างเพื่อช่วย ระบายความร้อน ออกอย่างรวดเร็ว
Ergonomic designed handle for more comfortable operation: คันโยกถูกออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบาย
Test button should be pressed at least once per month: ปุ่มทดสอบ (Test Button) ควรถูกกดเพื่อทดสอบการทำงานของระบบป้องกันไฟรั่ว อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ยังทำงานปกติ
Protection against overload and short-circuit currents: ป้องกัน กระแสไฟฟ้าเกิน (Overload) และ กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (Short-circuit) (ทำหน้าที่เหมือน MCB)
Protection against the effects of sinusoidal alternating earth fault currents: ป้องกันอันตรายจาก กระแสไฟฟ้ารั่วลงดินแบบกระแสสลับไซน์ (Sinusoidal AC) (ทำหน้าที่เหมือน RCD ทั่วไป Type AC)
Protection against indirect contacts and additional protection against direct contacts: ป้องกันอันตรายจาก การสัมผัสทางอ้อม และการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับการสัมผัสทางตรง
Protection against fire hazard caused by insulation faults: ป้องกันอันตรายจาก เพลิงไหม้ ที่เกิดจากความผิดพลาดของฉนวนไฟฟ้า (ไฟรั่วลงดินที่ทำให้เกิดความร้อนสูง)
Used in residential building: ใช้สำหรับ อาคารพักอาศัย
According to the type of instantaneous release classified as follows: จัดประเภทตามลักษณะการทริปของเบรกเกอร์ (กระแสเกิน/ลัดวงจร) ดังนี้:
Type B ($3-5 I_n$): สำหรับวงจรที่มีโหลดทั่วไป เช่น หลอดไฟ เครื่องทำความร้อน
Type C ($5-10 I_n$): สำหรับวงจรที่มีโหลดอุปนัย (Inductive Load) เช่น มอเตอร์ขนาดเล็ก เครื่องปรับอากาศทั่วไป
Type D ($10-20 I_n$): สำหรับวงจรที่มีโหลดความต้านทานสูง เช่น เครื่องเชื่อม, X-ray
ข้อสังเกตสำคัญสำหรับงานโซล่าเซลล์:
จากข้อที่ 2 ในส่วน General ระบุว่ามีการป้องกัน "sinusoidal alternating earth fault currents" ซึ่งบ่งชี้ว่าเบรกเกอร์รุ่นนี้เป็น RCBO Type AC เป็นอย่างน้อย (อาจจะเป็น Type A ถ้าพิจารณาจากภาพรวมการใช้งานในบ้านสมัยใหม่) แต่ ไม่ได้ระบุถึงการป้องกันกระแส DC เรียบ (Smooth DC) ที่จำเป็นสำหรับระบบโซล่าเซลล์ตามมาตรฐาน Type B ที่เราได้พูดคุยกันไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น หากจะนำไปใช้กับฝั่ง AC ของอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ ควรตรวจสอบสเปคอย่างละเอียดว่ามีรุ่น Type B ให้เลือกหรือไม่ หรือควรใช้ RCBO Type B รุ่นเฉพาะทางเพื่อความปลอดภัยสูงสุดครับ
ภาพนี้แสดงเบรกเกอร์สองรุ่นในซีรีส์ NXMLE ซึ่งเป็น MCCB ที่มาพร้อมฟังก์ชันป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว (Earth Leakage Protection) เหมาะสำหรับใช้เป็นเมนเบรกเกอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้าขนาดใหญ่
รุ่น (Model): NXMLE-160S/3300
พิกัดกระแส (In): 160 A (แอมแปร์)
พิกัดแรงดันใช้งาน (Ue): 400V 415V (สำหรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส)
พิกัดแรงดันฉนวน (Ui): 800V
พิกัดแรงดันอิมพัลส์ (Uimp): 8kV
พิกัดกระแสลัดวงจรสูงสุด (Icu): 30kA (กิโลแอมป์) ซึ่งเป็นพิกัดการทนกระแสลัดวงจรสูงสุด
การปรับตั้งกระแสรั่ว ($I_{\Delta}n$): สามารถปรับตั้งค่ากระแสไฟฟ้ารั่วที่ต้องการให้ตัดวงจรได้ที่ 50, 100, 200, 300 mA (มิลลิแอมป์) โดยมีสวิตช์หมุนเลือก
ระยะเวลาตัดวงจร ($\Delta t$): สามารถปรับหน่วงเวลาการตัดวงจรได้ที่ <0.1s (ตัดทันที) หรือ 0.1s
ปุ่มทดสอบ (Push to Trip): ปุ่มสีส้มด้านล่าง สำหรับกดทดสอบฟังก์ชันการตัดวงจร
รุ่น (Model): NXMLE-250S/4300A
พิกัดกระแส (In): 250 A (แอมแปร์)
พิกัดแรงดันใช้งาน (Ue): 400V 415V (สำหรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส)
พิกัดกระแสลัดวงจรสูงสุด (Icu): 36kA (กิโลแอมป์) (สูงกว่าตัวซ้าย)
การปรับตั้งกระแสรั่ว ($I_{\Delta}n$): สามารถปรับตั้งค่ากระแสไฟฟ้ารั่วที่ต้องการให้ตัดวงจรได้ที่ 200, 300, 500 mA (มิลลิแอมป์) และอาจมีค่าอื่นๆ ที่มองไม่เห็นชัดเจน
ระยะเวลาตัดวงจร ($\Delta t$): สามารถปรับหน่วงเวลาการตัดวงจรได้ที่ <0.1s (ตัดทันที) หรือ 0.1s
ปุ่มทดสอบ (Push to Trip): ปุ่มสีส้มด้านล่าง สำหรับกดทดสอบฟังก์ชันการตัดวงจร
ตัวแสดงสถานะ (LED Indicator): มีไฟ LED สีแดง (Trip) และสีเขียว (Ready) เพื่อแสดงสถานะการทำงาน
ฟังก์ชันหลัก: เป็นเบรกเกอร์แบบ 4 โพล (4 Pole) (มีขั้วต่อ L1, L2, L3, N) ใช้สำหรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส พร้อมความสามารถในการป้องกัน กระแสเกิน, ลัดวงจร และกระแสไฟฟ้ารั่ว
การใช้งาน: เหมาะสำหรับเป็น เมนเบรกเกอร์ (Main Breaker) ในตู้ควบคุมไฟฟ้า หรือตู้ MDB/Sub-DB ที่ต้องการการป้องกันกระแสไฟรั่ว
ความเหมาะสมกับโซล่าเซลล์ (ในบริบทเมนเบรกเกอร์):
เบรกเกอร์ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็น Type A หรือ Type AC (ข้อมูลที่มองเห็นไม่ได้ระบุ Type B ชัดเจน)
หากนำมาใช้เป็นเมนเบรกเกอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้าที่มีระบบโซล่าเซลล์เชื่อมต่ออยู่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ารุ่นที่เลือกเป็น Type B หากมันป้องกันวงจรที่ต่อกับอินเวอร์เตอร์โดยตรง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในการตรวจจับกระแสไฟรั่วแบบ DC เรียบ
ความแตกต่างระหว่างสองรุ่น:
ตัวซ้ายมีพิกัดกระแสต่ำกว่า (160A) และมีพิกัดกระแสลัดวงจรต่ำกว่า (30kA)
ตัวซ้ายสามารถปรับตั้งกระแสไฟรั่วได้ต่ำสุดที่ 50 mA (เหมาะกับการป้องกันที่ละเอียดกว่า) ในขณะที่ตัวขวาปรับได้ต่ำสุดที่ 200 mA หรือสูงกว่า (อาจเป็นรุ่นที่เน้นการป้องกันไฟรั่วขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรม หรือใช้เป็น Main RCD)
คุณอาจคิดว่า RCBO ทั่วไปที่ใช้ในบ้านก็เพียงพอแล้ว... นั่นคือความเข้าใจที่ผิดอย่างมหันต์!
สำหรับระบบโซล่าเซลล์ที่ใช้ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) มีข้อกำหนดทางเทคนิคที่ชัดเจนว่าต้องใช้ RCBO Type B เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล IEC 60364-7-712
ปัญหาหลักที่ทำให้ RCBO ชนิดทั่วไป (Type AC หรือ Type A) ไม่สามารถใช้กับระบบโซล่าเซลล์ได้อย่างปลอดภัยคือการรับมือกับ "กระแสไฟรั่วแบบ DC เรียบ" (Smooth DC Residual Current) ที่มาจากอินเวอร์เตอร์
กระแสไฟรั่ว DC เรียบคืออะไร? กระแสไฟรั่วชนิดนี้เกิดจากความผิดปกติของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในอินเวอร์เตอร์ ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ผลกระทบต่อ RCBO ทั่วไป: RCBO Type AC และ Type A ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ตรวจจับกระแส DC เรียบได้ เมื่อกระแส DC เรียบไหลผ่านขดลวดตรวจจับของเบรกเกอร์ จะทำให้แกนเหล็ก อิ่มตัว (Saturate) หรือที่เรียกกันว่า "เบรกเกอร์ตาบอด (Blinding)"
อันตรายที่ตามมา: เมื่อเบรกเกอร์ตาบอด มันจะ หยุดการทำงาน และไม่สามารถตรวจจับกระแสไฟรั่วชนิดอื่น ๆ (เช่น AC หรือ DC พัลส์) ได้อีกต่อไป ส่งผลให้ระบบไม่มีการป้องกันไฟดูดใด ๆ เลย
RCBO Type B ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้นโดยเฉพาะ ทำให้มันสามารถตรวจจับกระแสไฟรั่วได้ ครอบคลุมทุกรูปแบบ
RCBO Type | กระแส AC (บ้านทั่วไป) | กระแส DC พัลส์ (อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์) | กระแส DC เรียบ (โซล่าเซลล์) |
Type A | ✅ | ✅ | ❌ |
Type B | ✅ | ✅ | ✅ (ทำงานได้) |
มาตรฐาน IEC 60364-7-712 กำหนดชัดเจนว่า วงจรไฟฟ้าที่จ่ายไฟจากอินเวอร์เตอร์ ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วที่สามารถตัดวงจรได้เมื่อมีกระแสรั่วแบบ DC เรียบ ซึ่งก็คือ RCBO Type B
เลือก IΔn ที่ 30 mA: เพื่อการป้องกันบุคคล (ไฟดูด) อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ติดตั้งที่ฝั่ง AC: RCBO Type B จะต้องติดตั้งในตำแหน่งที่ป้องกันวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่รับไฟจากอินเวอร์เตอร์
พิกัดกระแส (A) ต้องเหมาะสม: เลือกขนาดแอมป์ให้สอดคล้องกับพิกัดกระแสสูงสุดที่อินเวอร์เตอร์สามารถจ่ายได้ เพื่อป้องกันกระแสเกิน/ลัดวงจร
การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เป็นการลงทุนระยะยาวที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบด้านความปลอดภัย การเลือกใช้ RCBO Type B อาจมีราคาสูงกว่าเบรกเกอร์ทั่วไป แต่เป็นการลงทุนที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจากอันตรายที่มองไม่เห็นของกระแสไฟรั่ว DC เรียบ
มั่นใจได้ว่าระบบโซล่าเซลล์ของคุณปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุด เลือกติดตั้ง RCBO Type B ที่ถูกต้องตั้งแต่วันนี้
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน RCBO Type B และระบบโซล่าเซลล์ที่ปลอดภัยที่สุด
ซันเนอร์ยี่ พร้อมให้คำแนะนำด้านเทคนิคและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันมาตรฐานสูงสำหรับระบบโซล่าเซลล์โดยเฉพาะ
ติดต่อเราทันที!
ช่องทางการติดต่อ | รายละเอียด |
LINE Official Account (แนะนำ) | @sunnergy |
เว็บไซต์ (เพื่อดูรายละเอียดสินค้า) | www.sunnergytech.com |